สำหรับมือใหม่การนำเอาวิธีออกกำลังกายแบบ HIIT ไปปรับใช้กับวิธีการออกกำลังกายในแบบเดิม ที่ทุกคนชื่นชอบก็ถือได้ว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมากทีเดียว ไม่ว่าจะนำไปใช้กับการวิ่ง การเต้นแอโรบิค การปั่นจักรยาน และการทำบอดี้เวท เพราะการนำเอาเทคนิค HIIT ไปใช้กับการออกกำลังกายจากเดิม หรือทำเป็นประจำอยู่แล้วก็จะง่ายต่อการปรับตัวของร่างกาย และมีแรงจูงใจในการทำให้สำเร็จได้มากขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ
แน่นอนว่าหากใครที่ไม่เคยใช้เทคนิคนี้ในการออกกำลังกายมาก่อน เราก็อยากจะขอแนะนำให้ทุกคนเริ่มจากการออกกำลังกายในแบบปกติสลับกับการใช้ HIIT ควบคู่กันไปก่อนค่ะเพื่อไม่ให้โปรแกรมการออกกำลังกายนั้นหนักมากจนเกินไป โดยออกแบบให้ 1 สัปดาห์มีการใช้ HIIT สัก 1 ครั้งก่อน เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้สักระยะหนึ่ง
เมื่อร่างกายสามารถเรียนรู้ และคุ้นชินกับการออกกำลังกายดังกล่าวได้แล้วจึงเพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกาย จาก 1 ครั้ง เป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ทำติดกันทุกวันนะคะ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย และกล้ามเนื้อได้ เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างหนักทำให้ร่างกายต้องการระยะเวลาในการฟื้นฟู และการพักผ่อนด้วย
การออกแบบระยะเวลาในการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาของ HIIT ในเบื้องต้นทุกคนอาจจะกำหนดสัดส่วนในการออกกำลังด้วยตนเองได้ตามเท่าที่ร่างกายไหว โดยอาจจะนำเอาหลักการจากที่ผู้เชี่ยวชาญใช้มาปรับเปลี่ยนเพื่อหาช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยเริ่มต้นจากความหนักที่ 1:2 หรือ 1:3 เพื่อไม่ให้ร่างกายรับศึกหนักมากจนเกินควรค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น กำหนดระยะเวลาออกกำลังกายโดยรวมเอาไว้ที่ 20 นาที เมื่อหักลบเวลาที่ทำการวอร์มอัพ และคูลดาวน์แล้วให้นำเวลาที่เหลือตรงนั้นมาจัดเป็นเซต แล้วคำนวณดูว่าแต่ละเซตต้องใช้เวลาเท่าไหร่ จากนั้นให้แบ่งเวลาในแต่ละเซตออกเป็นอัตราส่วนตามที่เราต้องการ เพื่อดูว่าในหนึ่งเซตเราจะต้องออกกำลังกายแบบหนักสุด ๆ เท่าไหร่นั่นเองค่ะ
ตัวอย่างการแบ่งสัดส่วนโดยการวิ่ง
แบ่งสัดส่วน 1:2 วิ่งด้วยความเร็วสูง 15 วินาที สลับกับการวิ่งช้า ๆ หรือจ๊อกกิ้งเบา ๆ 30 วินาที จากนั้นทำไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
แบ่งสัดส่วน 1:3 วิ่งด้วยความเร็วสูง 15 วินาที สลับกับการวิ่งช้า ๆ หรือจ๊อกกิ้งเบา ๆ 45 วินาที จากนั้นทำไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที