แนะนำสำหรับคุณ
ค้นพบตัวเลือกยอดนิยมที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ — คัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ!
฿12,900.00 – ฿13,400.00Price range: ฿12,900.00 through ฿13,400.00
฿1,450.00 – ฿1,650.00Price range: ฿1,450.00 through ฿1,650.00
Pilates (พิลาทิส) เทรนด์การออกกำลังกายที่หลายคนได้ยินอาจจะไม่คุ้นหูนัก เพราะเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่กำลังฮิตในหมู่ไอดอล นักร้อง นักแสดง จนถูกแชร์ออกไปทั่วโลก กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ไอดอลของไทยเราเช่นกัน Pilates อาจคล้ายกับโยคะ แต่ก็มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้รูปแบบการออกกำลังกายแบบนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของร่างกายและยังให้ประโยชน์มากมาย ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Pilates กันค่ะ
Pilates (พิลาทิส) คือรูปแบบการออกกำลังกายซ้ำ ๆ บนเสื่อโยคะหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อเสริมความแข็งแรง ความมั่นคง และความยืดหยุ่น การออกกำลังกายแบบ Pilates (พิลาทิส) ช่วยพัฒนาร่างกายด้วยการฝึกกล้ามเนื้อ เทคนิคนี้ช่วยปลูกฝังการรับรู้ของร่างกาย เพื่อช่วยเสริมการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันให้มีประสิทธิภาพและสง่างาม ด้วยเหตุนี้ Pilates (พิลาทิส) จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเต้น และเป็นที่นิยมในวงกว้าง
Pilates (พิลาทิส) ได้รับการพัฒนาโดย Joseph Pilates (โจเซฟ พิลาทิส) ในช่วงปี ค.ศ. 1920 ซึ่งเขาไม่ได้กำหนดหลักการของ Pilates โดยตรง แต่เป็นแนวคิดที่กลั่นกรองมาจากงานของท่านอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ทำให้เขาได้พัฒนา เพื่อปรับปรุงท่าทาง ความสมดุลของร่างกาย ซึ่งรวมถึงบั้นท้าย สะโพก อุ้งเชิงกราน และกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง เช่นเดียวกับโยคะ แต่วิธีของพิลาทิสจะเน้นกระตุ้นการหายใจลึก ๆ อย่างมีสติ นอกจากนี้ Pilates (พิลาทิส) ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในสถานพักฟื้น และยังให้ประโยชน์ต่อคนที่รักการออกกำลังกายและนักกีฬาชั้นแนวหน้าอีกด้วย
Pilates (พิลาทิส) ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยใช้ประโยชน์จากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวแข็งแรง ยืดหยุ่น เสริมความแข็งแรงของลำตัวและความมั่นคงของร่างกาย
ประโยชน์ทางกายภาพอื่นๆ ของพิลาทิส ได้แก่ :
Yoga (โยคะ) และPilates (พิลาทิส) ทั้งสองรูปแบบมีใกล้เคียงกัน คือ การออกกำลังกาย ที่ส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความสมดุลของร่างกาย และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ การฝึกลมหายใจ และช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้กับร่างกาย และช่วยให้คลายความเครียดได้ดีเช่นกัน แต่จะมีข้อสังเกตุที่แตกต่างกัน คือ โยคะ จะเน้นการฝึกท่าทาง การฝึกลมหายใจโดยใช้อุปกรณ์เสริมเพียงเล็กน้อย ส่วน พิลาทิส จะใช้เสื่อโยคะ และอุปกรณ์พิเศษสำหรับ พิลาทิสโดยเฉพาะ นอกจากนี้ท่วงท่าของการออกกำลังกายก็มีความแตกต่างกัน คือ พิลาทิส จะเน้นการฝึกหายใจควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหว แต่โยคะจะเน้นไปที่การฝึกหายใจควบคู่ไปกับการอยู่นิ่ง ๆ ชั่วระยะหนึ่งจากนั้นค่อยเปลี่ยนท่าไปเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ
ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่มากมายในการออกกำลังกายพิลาทิสที่บ้าน ขอแค่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับกางเสื่อพิลาทิสหรือเสื่อโยคะบนพื้นผิวเรียบ คุณสามารถลงทุนซื้ออุปกรณ์เล็ก ๆ เช่น ยางยืดและลูกบอลออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณได้ ก่อนเริ่มออกกำลังกายด้วยพิลาทิสให้เริ่มต้นจากการวอร์มอัพด้วยการยืดเส้นยืดสาย หรือทำคาร์ดิโอเบาๆ 5-10 นาที
ใช้อุปกรณ์เสริมคือ ดัมเบล 1 กิโลกรัม สำหรับผู้เริ่มต้น
1.เริ่มต้นด้วยการยืนตรง ให้ถือดัมเบล ในท่าทิ้งมือลงตามปกติ
2.ก้าวขาขวาไปด้านหน้า จากนั้นยกแขนขึ้นพร้อมกับชูดัมเบลขึ้นเหนือศรีษะ ทั้งสองข้าง
3.ลากขากลับมาอยู่ในท่าตรง หรือท่าเริ่มต้น
4.ทำซ้ำ 8 – 10 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้าง
1.ยืนตัวตรงและยกมือขึ้นเหนือหัว จากนั้นก้มลง แล้วใช้มือคลานไปด้านหน้าในท่าเตรียมวิดพื้น โดยให้เท้าอยู่กับที่
2.วิดพื้น 3 – 5 ครั้ง
3.ใช้มือเดินกลับไปอยู่ในท่ายืนตรง โดยให้เท้าอยู่กับที่
4.ทำซ้ำ 3 – 4 เซต
1.ยืนตรง มือประสานไว้ที่ท้ายทอย เหมือนรูปตัว Y
2.งอเข่าลงเล็กน้อย ในขณะที่มือประสานที่ท้ายทอย
3.ลุกขึ้นยืนตรงในท่าเริ่มต้น
4.ทำซ้ำ 8 ถึง 12 ครั้งต่อ 1 เซต ทำทั้งหมด 2 เซต
1.เริ่มต้นด้วยการนั่งเหยียดขาไปด้านหน้า โดยให้เท้าชิดกันด้านหน้า และวางมือไว้ด้านหลังโดยให้หันปลายนิ้วมือไปหาส้นเท้า
2.ยกสะโพกขึ้นไปในอากาศ โดยให้ข้อมือเป็นตัวรับน้ำหนัก
3.ค้างไว้ 5 ลมหายใจ
4.ลดลงตัวลง ทำซ้ำ 5 – 8 ครั้ง
5.เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ให้เพิ่มความข้มข้นด้วยการเตะขา โดยยกขาขึ้นทีละข้างได้
อ้างอิง